สำหรับคำว่า เหล้าป่า นั้น จะหมายถึงเหล้าเถื่อน ที่มีการผลิตขึ้นมาขายโดยที่ไม่ได้มีการขออนุญาต หรือเสียภาษี แต่ในปัจจุบันนี้ สำหรับคนที่อยากจะ ต้มเหล้า ขาย คุณสามารถที่จะขออนุญาตได้อย่างถูกต้องแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นโรง สุรากลั่น ขนาดเล็ก ก็สามารถที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ ซึ่งก็เป็นเหตุมาจากกฎหมายสุราก้าวหน้านั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้วในปัจจุบันนี้ สำหรับผู้บริโภคก็จะมีตัวเลือกในการซื้อ สุราพื้นบ้านไทย มากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเหล้าเถื่อน ในปัจจุบันก็มี เหล้าพื้นบ้าน ไทย หลากหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ซึ่ง สุรากลั่น ในโรงเหล้าขนาดเล็กเหล่านี้ ก็จะมีการผลิตโดยใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิม หรือผลิตจากวิธีการ ต้มเหล้า ดั้งเดิมที่ได้มาตรฐานมากขึ้น
ในส่วนของการเลือกใช้วัตถุดิบสำคัญในการทำ สุราพื้นบ้านไทย ก็จะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการทำเหล้าจากอ้อย ข้าว หรือการทำเหล้าจากข้าวโพดที่เรียกกันว่า เหล้าข้าวโพด หลากหลายวัตถุดิบในการทำ เหล้าพื้นบ้าน จะทำให้สุราแต่ละยี่ห้อมีรสชาติที่ต่างกันไป วันนี้ UFABET Club ก็จะพาทุกคนไปล้วงลึกข้อมูลเกี่ยวกับ สุรากลั่น พื้นบ้านของไทยในทุกแง่มุม
เหล้าป่า มักมาพร้อมวิธีการผลิตแบบวิถีดั้งเดิมของแต่ละท้องถิ่น
สำหรับกรรมวิธีการผลิตเหล้าเถื่อนในอดีตนั้น เป็นสิ่งที่คนในท้องถิ่นปรับปรุงขึ้นมาเอง ในปัจจุบันนี้เหล้าเถื่อนมักจะกลายเป็น เหล้าพื้นบ้าน เมื่อมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง สำหรับวิธีการ ต้มเหล้า ในแบบดั้งเดิม ก็ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้เหล้าแบบบ้านๆ มีเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน โดยวิธีการดั้งเดิมในการทำเหล้า
ก็จะเป็นการหมักวัตถุดิบต่างๆ และการออกมาให้ได้เป็นเหล้าหรือ สุรากลั่น ที่มีทั้งกลิ่นและรสชาติ ต่างจากการผลิตสุราในโรงงานขนาดใหญ่ สำหรับใครที่อยากลอง เหล้าไทย ที่มีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง ในปัจจุบันก็สามารถหาซื้อได้หลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็มีการใช้วิธีการผลิตแ ละใช้วัตถุดิบที่ไม่เหมือนกัน ทุกคนจะได้สัมผัสรสชาติที่ต่างออกไป ใน สุราพื้นบ้านไทย แต่ละยี่ห้อ
วิธี ต้มเหล้า ในแบบพื้นบ้าน สามารถลองทำตามเพื่อเก็บไว้ดื่มเองได้เลย
สำหรับวิธี ต้มเหล้า ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีวิธีการที่ต่างกัน นอกจากนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับว่าคุณ เลือกที่จะทำเหล้าประเภทไหน ถ้าเป็นการทำ เหล้าข้าวโพด ก็จะต่างจากเหล้าสาโท แต่สำหรับวิธีการทำ สุราพื้นบ้านไทย ที่นำมาบอกวันนี้ จะเป็น วิธีหมักเหล้า โดยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากลองทำไว้กินเอง ไม่ได้ทำไว้เพื่อขาย ก็สามารถทำตามได้เลย
- อย่างแรกนั้นก็ต้องมาคัดเลือกวัตถุดิบกันก่อน ซึ่งวัตถุดิบยอดนิยมในการทำ สุราพื้นบ้านไทย นั้น ก็จะมีทั้งอ้อย ข้าวโพด ข้าวเจ้า และประเภทข้าวทั้งหลาย หรือใครจะเลือกใช้วัตถุดิบเป็นผลไม้ก็ได้ หลังจากเลือกได้แล้ว ก็ต้องนำวัตถุดิบไปทำความสะอาด
- ต่อมาก็จะต้องทำวัตถุดิบให้สุก โดยจะทำผ่านวิธีการนึ่ง ส่วนวัตถุดิบที่เป็นผลไม้ ให้ทำผ่านวิธีการต้ม ทั้งการนึ่งและการต้ม นอกจากจะเป็นการทำให้วัตถุดิบพร้อมต่อการ ต้มเหล้า แล้ว ก็ยังเป็นวิธีการฆ่าเชื้อในแบบดั้งเดิม ที่ทำได้ง่ายที่สุดด้วย
- ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำลูกแป้ง ซึ่งสิ่งนี้ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการทำ เหล้าพื้นบ้าน เป็นอย่างมาก สำหรับใครที่เคยลองหมักเหล้าสาโท ก็มักจะมีการซื้อขายหัวเชื้อในการหมักเหล้ากันเป็นก้อนๆ ซึ่งนั่นถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการทำ สุรากลั่น ด้วยตัวเอง
- เมื่อได้ลูกแป้งมาแล้ว ก็ให้นำไปหมักกับข้าวหรือวัตถุดิบที่เตรียมไว้ จากนั้นก็หมักใส่ภาชนะไว้ 3-5 วัน หรือแล้วแต่สูตรของแต่ละท้องถิ่น สำหรับเหล้าผลไม้นั้น สามารถที่จะหมักกับยีสต์ ที่หาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี่ทั่วไปได้เลย
- หลังจากที่มีการหมักและจัดเก็บเหล้าแล้ว ก็จะต้องดูแลเรื่องของความร้อน และจะต้องปิดผนึกของภาชนะ ที่ใช้หมักเหล้าให้ดี ส่วนขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการกลั่น หรือว่ากรองเหล้า เพื่อนำเศษต่างๆออก เพื่อให้ได้น้ำเยอะที่สุด
เหล้าข้าวโพด เมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่าลอง กลิ่นหอม รสชาติดี
เป็นที่ทราบกันอย่างที่ว่า เหล้าพื้นบ้าน นั้น มักจะทำมาจากวัตถุดิบ ที่มักจะหาได้ในประเทศไทย หรือในแต่ละท้องถิ่น สำหรับข้าวโพดก็เป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย ซึ่งการที่ข้าวโพดสามารถหาได้ง่ายนั้น ก็ทำให้ในชุมชน มีการหยิบนำมาทำเป็น เหล้าข้าวโพด โดยในปัจจุบันก็มี สุรากลั่น ที่ทำมาจากข้าวโพด ให้ได้ลองกันพอสมควร สำหรับใครที่อยากจะลองว่ามีรสชาติเป็นอย่างไร
ก็แนะนำโคโยตี้ ลำก้า ซึ่งถือได้ว่าเป็น เหล้าข้าวโพด OTOP จากจังหวัดเชียงใหม่ เหลือใครที่อยากจะรู้ว่าข้าวโพดผสมกับแอลกอฮอล์แล้วมีรสชาติเป็นอย่างไร นอกจากเหล้าไทย ก็ยังมีมักกอลลี เหล้าพื้นบ้าน เกาหลี ให้ได้ลองด้วย โดยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้ สามารถหาซื้อได้ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเกาหลีประเภทต่างๆ
ทำ เหล้าป่า กินเอง จากผลผลิตในท้องถิ่นที่หาได้ทั่วไป
หากคุณจะลองทำเหล้ากินเองแบบเล่นๆ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป เช่นการทำ เหล้าข้าวโพด ทำเหล้าผลไม้ ก็สามารถทำได้ เนื่องจากว่าไม่ได้มีการจัดจำหน่าย สำหรับใครที่อยากจะลอง ต้มเหล้า แล้วเก็บไว้กินเอง ก็อาจจะลองมองหาผลผลิต ที่หาได้ในท้องถิ่นก่อน จากนั้นค่อยเตรียมอุปกรณ์และเริ่มลองทำด้วยตัวเอง สำหรับวิธีที่แนะนำไปนั้นอาจจะยังไม่ละเอียดมากนัก หากคุณคิดที่จะลองทำด้วยตัวเอง ก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ไม่พลาด และเพื่อไม่ให้เสียวัตถุดิบไปฟรีๆ
